9 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ 9 ประเภท เครื่องฟอกอากาศในรถยนต […]

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ 9 ประเภท

เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีฝุ่นควัน และมลพิษทางอากาศสูงจนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ โดยเครื่องฟอกอากาศรถแต่ละประเภทจะมีจุดเด่นและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. เครื่องฟอกอากาศแบบ HEPA (High-Efficiency Particulate Air) มีผ้ากรอง HEPA ที่สามารถดักจับมลพิษอนุภาคขนาดเล็กมาก รวมถึงฝุ่นละอองขนาด PM10, PM2.5 และ PM0.3 ทำให้การดักจับมลพิษในอากาศของรถค่อนข้างดีทีเดียว

   

2. เครื่องฟอกอากาศประจุไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Air Cleaner) ทำงานโดยการปล่อยประจุไฟฟ้าเข้าไปในอากาศ โดยประจุไฟฟ้าเหล่านี้จะไปเกาะติดกับมลพิษต่างๆ รวมถึงฝุ่น ขนาดใดก็ตาม เมื่อฝุ่นเคลื่อนที่ผ่านเครื่องฟอกอากาศจะถูกดึงดูดติดเข้ากับแผ่นกรองประจุไฟฟ้าสถิต

3. เครื่องฟอกอากาศแบบถ่านกัมมันต์ (Activated carbon) มีถ่านกัมมันต์ที่สามารถดักจับสารอินทรีย์ต่างๆ เช่น กลิ่นและควัน รวมไปถึงสามารถดักจับฟอร์มาลดีไฮด์ที่มีอยู่ในรถได้

4. เครื่องฟอกอากาศไอออนลบ (Negative Ion) ใช้วิธีหลักการในการสร้างประจุไอออนลบ แล้วปล่อยสู่ในอากาศ โดยไอออนนี้จะไปจับกับฝุ่นละอองที่มีประจุบวก รวมทั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ทำให้อากาศภายในรถสะอาดบริสุทธิ์

5. เครื่องฟอกอากาศแบบพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster Ion Technology) โดยหลักการทำงานของจะใช้กระบวนการปล่อยประจุไฟฟ้า เพื่อชำระล้างฝุ่น เชื้อโรค จุลินทรีย์ รวมไปถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ในอากาศ

6. เครื่องฟอกอากาศแบบโฟโตแคทาลิติก (Photocatalytic Air Purifier) เครื่องฟอกประเภทนี้มีสารコーティングที่เรียกว่า “Photocatalyst” ซึ่งเป็นสารที่ทำงานโดยการดูดซับแสง UV เพื่อสร้างอนุมูลอิสระและออกซิเจนที่ใช้งานได้ ซึ่งสารเหล่านี้สามารถทำลายไวรัสและแบคทีเรียในอากาศ

7. เครื่องฟอกอากาศแบบ Gas Adsorption เครื่องฟอกอากาศประเภทนี้ทำงานโดยการดูดซับสารมลพิษออกจากอากาศ โดยมีแผ่นกรองสามารถดูดซับมลพิษบางประเภท เช่น กลิ่นเหม็น ควันบุหรี่ สารเคมีและแบคทีเรีย

8. เครื่องฟอกอากาศแบบ Ozonator (โอโซน) หลักให้การทำงานโดยการปลดปล่อยก๊าซโอโซนออกมาในปริมาณที่เหมาะสม ก๊าซโอโซนนี้จะทำการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ

9. เครื่องฟอกอากาศแบบ UV (Ultraviolet) หลักการทำงานคือใช้หลอด UV-C ซึ่งแสง UV มีคุณสมบัติในการทำลายเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส และยีสต์ ได้อย่างดีเยี่ยม