If8/16 ตื่นเช้า
  1. Comestic
kct30 ธันวาคม 2023

If8/16 ตื่นเช้า

ช่วงเช้าตรู่ : If8/16 เวลาสำหรับการเริ่มต้นที่ดี ช่วงเว […]

ช่วงเช้าตรู่ : If8/16 เวลาสำหรับการเริ่มต้นที่ดี

ช่วงเวลา If8/16 หรือที่เรียกว่าการอดอาหารแบบ 8/16 เป็นหนึ่งในรูปแบบของการอดอาหารแบบเว้นระยะ (Intermittent Fasting) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยวิธีการที่ง่ายและสามารถปรับใช้เข้ากับวิถีชีวิตประจำวันได้สะดวก ช่วงเช้าตรู่จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นการอดอาหารแบบ If8/16

การเตรียมตัวสำหรับการอดอาหารแบบ If8/16

ก่อนเริ่มต้นการอดอาหารแบบ If8/16 สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อให้คำแนะนำและคำปรึกษาเกี่ยวกับการอดอาหารแบบ If8/16
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารโดยลดอาหารแปรรูป น้ำตาล และของหวาน
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย
  • จัดเตรียมมื้ออาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี และผักผลไม้

ช่วงเช้าตรู่ : ช่วงเวลาเหมาะสำหรับการเริ่มต้น

ช่วงเช้าตรู่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นการอดอาหารแบบ If8/16 เนื่องจากร่างกายอยู่ในภาวะที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหลังจากอดอาหารมาตลอดทั้งคืน จึงเป็นช่วงที่ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญไขมันเพื่อเป็นพลังงาน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ช่วงเช้าตรู่ยังเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) สูง ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้มากขึ้นอีกด้วย

กิจกรรมที่แนะนำในช่วงเช้าตรู่

  • การออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น การวิ่ง เดิน ว่ายน้ำ เป็นต้น
  • การออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ
  • การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น
  • การทำสมาธิหรือโยคะเพื่อผ่อนคลายความเครียด

ข้อควรระวังและการปรับตัว

ในการเริ่มต้นการอดอาหารแบบ If8/16 อาจมีอาการหิวหรืออ่อนเพลียในช่วงแรกๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและสามารถปรับตัวได้โดยค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาการอดอาหารและลดปริมาณอาหารในแต่ละมื้อลง โดยให้รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี และผักผลไม้ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างเพียงพอ

การอดอาหารแบบ If8/16 ไม่ใช่สำหรับทุกคน

แม้ว่าการอดอาหารแบบ If8/16 จะเป็นวิธีลดน้ำหนักและไขมันส่วนเกินที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็จำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมและความปลอดภัยสำหรับแต่ละบุคคลอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนเริ่มต้นการดำเนินการ

0 View | 0 Comment