kct4 มกราคม 2024
ทําไงให้ตื่นเช้าแล้วไม่ง่วง
เข้านอนแต่หัวค่ำและนอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับที่เพียง […]
- เข้านอนแต่หัวค่ำและนอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตื่นเช้าอย่างสดใสและมีพลัง โดยผู้ใหญ่จะต้องนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
- สร้างกิจวัตรประจำวันและยึดถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ การมีกิจวัตรประจำวันจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวและคุ้นชินกับการตื่นนอนและการเข้านอนในเวลาเดียวกันได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ตื่นเช้าได้ง่ายขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า
- หลีกเลี่ยงการบริโภคสิ่งกระตุ้นในช่วงก่อนนอน ควรหลีกเลี่ยงบริโภคคาเฟอีน ชาหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในช่วงก่อนนอน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นระบบประสาทและทำให้การนอนหลับยากขึ้น
- สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้น่าสบาย ควรทำให้ห้องนอนมีบรรยากาศที่มืด สงบ เงียบและเย็น เพราะปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น จึงทำให้ตื่นเช้าได้ด้วยความสดชื่น
- ฝึกตื่นเช้าเป็นประจำ แม้ว่าวันหยุดก็ตามแต่ก็ควรฝึกตื่นเช้าให้เป็นนิสัย โดยการตั้งนาฬิกาปลุกและพยายามลุกออกจากเตียงทันทีที่นาฬิกาปลุกดัง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวและตื่นเช้าได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆ
- หาเหตุผลหรือแรงจูงใจในการตื่นเช้า การหาเหตุผลหรือแรงจูงใจในการตื่นเช้าจะช่วยให้ลุกออกจากเตียงได้ง่ายขึ้น เช่น การออกกำลังกาย การอ่านหนังสือ หรือกินอาหารเช้าที่แสนอร่อย หรือ ให้รางวัลตัวเองเมื่อสามารถตื่นเช้าได้ตามเป้าหมาย จะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจในการตื่นเช้าต่อไปเรื่อยๆ
- พักผ่อนในช่วงเวลากลางวันสั้นๆ หากรู้สึกง่วงนอนในช่วงเวลากลางวันอาจพักผ่อนสั้นๆ 10-20 นาที แต่ไม่ควรนอนนานเกินไปเพราะอาจทำให้รู้สึกง่วงนอนมากยิ่งขึ้นในช่วงเย็น การพักสั้นๆจะช่วยรู้สึกสดชื่นและมีพลังในการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆได้ต่อ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและทำให้การนอนหลับดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ตื่นเช้าได้ง่ายขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า
- รับแสงแดดในตอนเช้า การรับแสงแดดในตอนเช้าจะช่วยให้ร่างกายตื่นตัวและทำให้ร่างกายปรับตัวกับการตื่นนอนได้ง่ายขึ้น แสงแดดช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น เป็นการリセットร่างกายหลังจากนอนหลับ ซึ่งจะช่วยให้ตื่นเช้าได้ง่ายขึ้นโดยไม่รู้สึกเหนื่อยล้า
0 View | 0 Comment
Sugget for You